สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Mineral oils ( น้ำมันไวท์ออย หรือน้ำมันมิเนอรัล ออย)ใน skin care

ยังเป็นที่ถกเถียงกันในวงกว้างเมื่อพูดถึง Mineral Oil ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่คุณควรรู้

Mineral Oil จะถูกใส่ลงในเครื่องสำอางหลายชนิด เพื่อช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื่น นุ่มลงและเรียบเนียน แต่ในเครื่องสำอางแบรนด์ใหม่ๆหลายๆแบรนด์ จะไม่ใส่มันลงไปพร้อมๆกันพวกสารอันตรายอื่นๆเช่น paraben , phthalates, fragrances, และ color ไม่แน่ใจว่า Mineral Oil นั้นไม่ดีจริงหรือไม่ เราจะไปถามผู้เชี่ยวชาญกัน

Mineral oil คืออะไรและมีประโยชน์กับผิวอย่างไร?

“Mineral oil เป็น occlusive ingredient คือส่วนผสมที่ใช้รักษาความชุ่มชื้นของผิว ด้วยการป้องกันการระเหยของน้ำออกจากผิวหนังเช่นเดียวกับพวก petrolatum หรือ petroleum jelly มันจะสร้างชั้นกั้นระหว่างผิวและสิ่งแวดล้อมเพื่อป้องกันผิวจากลมหรือ pollution . Mineral oil จะไหลลื่นลงไปอุดระหว่างรอยแตกระหว่างเซลผิวทำให้ผิวมีความเรียบเนียนขึ้น และป้องกันไม่ให้น้ำระเหยออกไปอีกด้วย ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้มันถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในเครื่องสำอางต่างๆที่คุณเคยใช้” ผู้เชี่ยวชาญกล่าว.

“แพทย์หลายๆท่านเชื่อว่ามันปลอดภัย และไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่บอกว่าเราควรหลีกเลี่ยงการใช้มัน” นักวิทยาศาสตร์ทางด้านเครื่องสำอางกล่าว “จริงๆแล้วมันเป็นส่วนผสมที่ดีสำหรับคนที่มีผิวแห้ง หรือคนที่เป็นกาก” อย่างไรก็แล้วแต่เราไม่ได้ใช้มันนักในเครื่องสำอางรุ่นใหม่ๆเพราะว่าลูกค้าไม่ชอบมัน มีข่าวลือว่ามันมีสารก่อนมะเร็งอยู่ คือต้องแยกกันระหว่าง crude petroleum กับ mineral oil มันไม่เหมือนกัน ยกเว้นแต่ว่า Mieral Oil ที่ได้จากการกลั่นที่ไม่มีคุณภาพ นั่นอาจจะทำให้มันมีสาร 1,4-dioxane ที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้ แต่เป็นไปได้น้อยมาก แต่ก็อีกนั่นแหละน้อยมากเลยที่คนจะนำ Mineral Oil ที่ผ่านการกลั่นที่ดีมากๆมาใช้ในเครื่องสำอาง

เราจะใช้อะไรมาแทน Mineral Oils?

ถ้าผิวของคุณอุดตันง่ายและเป็นสิวหัวดำ หัวขาวได้ง่ายล่ะก็ชั้นผิวของ Mineral Oil อาจจะเป็นสาเหตุทำให้ผิวของคุณอุดตันและทำให้เกิดสิว Mineral Oil ไม่ใช่ส่วนผสมที่เป็น environmentally-friendly มากนัก “Mineral oil เป็น moisturising agent ราคาถูกที่ได้มาจาก Petroleum จึงมักถูกใช้กันอย่างแพร่หลายใน skincare และ makeup แต่ในปัจจุบันหลายๆแบรนด์ที่ตระหนักถึงปัญหานี้เริ่มหลีกเลี่ยงที่จะใช้ Mineral Oil แล้วหันมาใช้น้ำมันที่ได้จากการสกัดจากธรรมชาติแทน มีน้ำมันที่ได้จากธรรมชาติหลายๆอย่างที่นำมาใช้แทนเช่น Jojoba เนื่องจากน้ำมันที่ได้มาจากธรรมชาติซึ่งมีโครงสร้างคล้ายๆกับน้ำมันของผิวมนุษย์เรามากกว่า ทำให้ผิวยอมรับน้ำมันเหล่านี้มากกว่าที่จะมีปฏิกิริยาต่อต้าน

ถ้าคุณต้องการล้างเครื่องสำอางแบบกันน้ำให้ออกแบบล้ำลึกลงไปถึงรูขุมขนละก็ cleansing balm จะเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดี และคงจะดียิ่งขึ้นไปหากเป็น คลีนซิ่งบาล์มปราศจาก mineral oil

เมื่อนวด cleansing balm ไปทั่วใบหน้า ส่วนผสมที่เป็นน้ำมันต่างๆจะละลายเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกต่างๆรวมถึงผิวที่ตายแล้วออกมาจะผิวหน้าและรูขุมขนของคุณ และหากคุณต้องการหลีกเลี่ยงที่จะใช้ Mineral Oil ด้วยแล้วละก็ cleansing balm จาก Takane ก็เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เลือกใช้น้ำมันจากธรรมชาติเป็นส่วนผสม (Jojoba Oil, Almon Oil, Olive Oil, etc) ปราศจาก Mineral Oil , Paraben, Silicone, Alcohol, Silicone, etc.

Takane Cleansing Balm มีด้วยกัน 3 สูตร

1.Takane Cleansing Balm Kiwi ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวพรรณ ทำให้ผิวขาว กระจ่างใส ลดริ้วรอย กระชับเต่งตึง ลดภาวะที่เซลล์จะถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ

2. Takane Cleansing Balm Berry ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวพรรณช่วยผลัดเซลล์ผิวเสริมสร้างให้มีน้ำมีนวลเปล่งปลั่ง ช่วยลดริ้วรอย ทำให้อ่อนเยาว์อยู่เสมอ Antioxidant & Protection

3. Takane Cleansing Balm Lime ช่วยให้ผิวขาวใส ลดสิว จุดด่างดำ ลดความมันบนผิวหนังได้เป็นอย่างดี ช่วยกระชับรูขุมขน ต้านการอักเสบของผิวและลดรอยเหี่ยวย่น

จากการสำรวจความพึงพอใจจากผู้ใช้จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือสำหรับผู้ใช้ที่ผิวแห้งจะรัก cleansing balm ตัวนี้มากๆ ในขณะที่ผู้ใช้ที่ผิวมันจะรู้สึกว่าน้ำมันทำให้เหนียวเหนอะหนะ (ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนผิวมัน) แต่ไม่ว่าจะรู้สึกเหนียวเหนอะหนะอย่างไรผู้ใช้สามารถมั่นใจได้ว่าส่วนผสมน้ำมันนั้นมาจากธรรมชาติ ไม่มีอันตรายใดๆ และยังบำรุงผิวอีกด้วย

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.takanethailand.com